One Million Dollar Paranormal Challenge (รางวัลท้าทายเรื่องเหนือธรรมชาติล้านดอลลาร์สหรัฐ) เป็นโครงการของมูลนิธิการศึกษาเจมส์แรนดี้ (James Randi Educational Foundation ตัวย่อ JREF) ที่จะจ่ายเงินรางวัล 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 36,320,000 บาทต้นปี 2559) ให้กับใครก็ตามที่สามารถแสดงความสามารถเหนือธรรมชาติหรือปาฏิหาริย์ ภายใต้กฏการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถตกลงกันได้ โครงการรูปแบบเดียวกันเริ่มขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2507 และตั้งแต่นั้นมา มีคนเกินกว่าพันที่ได้สมัครเพื่อชิงรางวัล แต่ยังไม่มีใครชนะรางวัล
นักมายากลและนักแฉเรื่องหลอกลวง นายเจมส์ แรนดี้ ได้เกิดไอเดียนี้ขึ้น เมื่อเขาร่วมอยู่ในการสนทนาทางวิทยุที่นักปรจิตวิทยา (ผู้ศึกษาปรากฏการณ์ทางจิตที่อธิบายไม่ได้) ท้าให้เขาเดิมพันสิ่งที่เขาพูด ดังนั้นในปี พ.ศ. 2507 เขาจึงได้เริ่มเงินรางวัลหนึ่งพันดอลลาร์สหรัฐ (เท่ากับเงินประมาณ 274,136 บาทในปัจจุบัน) และต่อจากนั้นจึงเพิ่มเป็นหมื่นดอลลาร์ ต่อมา บริษัทกระจายเสียงเล็กซิงตันต้องการให้เขาทำรายการโชว์ชื่อว่า $100,000 Psychic Prize (รางวัลผู้มีอำนาจทางจิตวิญญาณหนึ่งแสนเหรียญสหรัฐ) ดังนั้น บริษัทจึงเพิ่มให้อีกเก้าหมื่นเหรียญเพิ่มเงินทุนเริ่มต้นที่ได้ ในที่สุดในปี 2539 เพื่อนของเขาคือนายริก อะดัมส์ ผู้เป็นนักบุกเบิกอินเทอร์เน็ต ได้บริจาคเงินหนึ่งล้านเหรียญสหรัฐเพื่อใช้เป็นรางวัล
โดยวันที่ 1 เมษายน 2550 ผู้ที่มีชื่อเสียงทางสื่อและการรับรองจากนักวิชาการเท่านั้น ที่จะสามารถสมัครชิงรางวัลได้ ข้อแม้นี้มีเพื่อจะไม่ต้องทดสอบคนสมัครที่ไม่มีชื่อเสียงหรือเป็นโรคจิต แล้วให้เวลากับพวกนักจิตวิญญาณและผู้อ้างว่ามีอำนาจเหนือธรรมชาติที่มีชื่อเสียง โดยเผยแพร่เรื่องทางสื่อ
ในวันที่ 4 มกราคม 2551 มีการประกาศว่าจะมีการยกเลิกรางวัลในวันที่ 6 มีนาคม 2553 เพื่อใช้เงินรางวัลทำอย่างอื่น แต่ก่อนที่จะยกเลิก คนที่ต้องการก็สามารถสมัครชิงรางวัลนั้นได้ เหตุผลที่ให้ในการยกเลิกก็คือผู้อ้างอำนาจเหนือธรรมชาติที่มีชื่อเสียงไม่เต็มใจที่จะสมัครชิงรางวัล ต่อมา ในงานประชุมจอมมหัศจรรย์ (The Amazing Meeting) ครั้งที่ 7 จึงมีการประกาศว่า จะไม่ยกเลิกรางวัล และในวันที่ 30 กรกฎาคม 2552 มูลนิธิจึงได้ปรับข้อมูลเว็บไซต์อย่างเป็นทางการประกาศว่า รางวัลจะดำเนินต่อไป และกล่าวว่า จะให้ข้อมูลในภายหลังเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบและวิธีการ
โดยทำเป็นการเล่นตลกในวันที่ 1 เมษายน 2551 (วันเมษาหน้าโง่) นายแรนดี้แกล้งให้รางวัลกับนักมายากลอีกคนหนึ่งหลังจากที่ทดสอบ "ความสามารถทางจิตวิญญาณ" ของเขา
ต่อมาวันที่ 8 มีนาคม 2554 มูลนิธิประกาศว่า มีการเปลี่ยนคุณสมบัติในการสมัครเพื่อให้มีผู้สมัครชิงรางวัลได้มากขึ้น ก่อนหน้านี้ ผู้สมัครต้องส่งเรื่องที่เผยแพร่ในสื่อมวลชน และจดหมายจากสถาบันวิชาการเพื่อสมัครชิงรางวัล แต่กฏใหม่ให้ผู้สมัครส่งเรื่องที่เผยแพร่ในสื่อมวลชน หรือจดหมายจากสถาบันวิชาการ หรือวิดีโอสาธารณะที่แสดงความสามารถของตน มูลนิธิอธิบายว่า กฏใหม่จะทำให้ผู้ไม่มีหลักฐานทางสื่อมวลชนหรือจากสถาบันวิชาการสามารถสมัครได้ และมูลนิธิก็จะสามารถใช้วิดีโอออนไลน์และบริการเครือข่ายสังคมเพื่อจะเข้าถึงคนเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นได้
ตั้งแต่ตั้งรางวัลนี้ในปี 2507 มีผู้สมัครชิงรางวัลแล้วประมาณพันคน แต่ยังไม่มีใครได้รางวัล นายแรนดี้แจ้งว่า ผู้สมัครที่ล้มเหลวเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่ได้พิจารณาตนเองอย่างจริงจังว่า การทำไม่สำเร็จอาจเป็นเพราะตนไม่มีอำนาจตามที่เชื่อว่ามี
กฏทางการของรางวัลกำหนดว่า ผู้สมัครต้องตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร เรื่องสภาวะและกฎเกณฑ์ในการทดสอบ ผู้สมัครที่ไม่สามารถทดสอบได้ในสภาวะการทดลองจะสมัครชิงรางวัลไม่ได้ ผู้สมัครสามารถต่อรองเรื่องการทดสอบและเรื่องผู้เข้าร่วมการทดสอบ เมื่อสมัครชิงรางวัลและในช่วงการต่อรองในระยะต้น ๆ แต่วิธีการที่อาจเกิดอันตรายสาหัสหรือเสี่ยงตาย จะใช้สมัครเพื่อทดสอบไม่ได้
เพื่อให้แน่ใจว่า สภาวะการทดลองจะไม่มีผลลบต่อความสามารถของผู้สมัคร จะมีการทดสอบเบื้องต้นแบบไม่อำพราง (ดู การทดลองแบบอำพราง) เพื่อเป็นตัวควบคุม ยกตัวอย่างเช่น ทำนายหาวัตถุ (dowsing) มูลนิธิทำการทดลองตัวควบคุม โดยให้คนทำนายพยายามหาวัตถุเป้าหมายโดยใช้อำนาจ โดยเปิดเผยให้รู้ว่าวัตถุเป้าหมายอยู่ที่ไหน การไม่สามารถทำนายได้ 100% ในช่วงการทดสอบแบบเปิด จะมีผลให้ผู้ทำนายหมดสิทธิชิงรางวัลทันที แต่โดยปกติแล้ว ผู้สมัครจะสามารถทำงานได้สำเร็จในการทดสอบแบบเปิดนี้ เป็นการยืนยันว่า สภาวะทางการทดลองใช้ได้
ผู้ชิงรางวัลจะต้องตกลงว่าอะไรเป็นบรรทัดฐานการกระทำว่าสำเร็จ ที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนก่อนการทดสอบ ผลการทดสอบที่ได้ต้องชัดเจนว่า เข้ากับบรรทัดฐานได้หรือไม่ นายแรนดี้กล่าวว่า เขาไม่จำเป็นจะต้องอยู่ในการทดลองด้วย และยินดีที่จะไปจากสถานที่ทดลองเพื่อป้องกันความรู้สึกว่า อคติต่อต้านเรื่องเหนือธรรมชาติของเขาจะมีอิทธิพลต่อผลการทดลอง
ช่วงหนึ่ง เรื่องที่สนทนากันระหว่างมูลนิธิกับผู้สมัครจะปรากฏในเว็บบอร์ดให้ทุกคนสามารถเห็นได้ แต่ต่อมาตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงต่อกฏที่บังคับให้ผู้สมัครต้องมีชื่อเสียงในระดับหนึ่ง บทสนทนากับผู้สมัครใหม่ ๆ ก็ไม่ปรากฏในเว็บบอร์ดอีกต่อไป แต่ว่ามูลนิธิก็ยังคงดำรงรักษาเรื่องสนทนาของผู้สมัครก่อน ๆ อยู่
ในปี 2522 นายแรนดี้ทดสอบบุคคลสี่คนในประเทศอิตาลีเรื่องการทำนายหาน้ำ (dowsing) รางวัลในตอนนั้นมีมูลค่าหนึ่งหมื่นดอลลาร์สหรัฐ สภาพการทดสอบก็คือจะใช้พื้นที่จตุรัสขนาด 10 ม. x 10 ม. มีแหล่งน้ำและที่กักน้ำ อยู่ภายนอกติดกับเขตที่ใช้ทดสอบ มีท่อพลาสติก 3 ท่อวิ่งผ่านใต้ดินจากแหล่งน้ำไปยังที่กักน้ำตามท่อที่อำพรางไว้ ท่อแต่ละท่อจะวิ่งผ่านเขตทดสอบโดยเข้ามาในเขตจากริมขอบและจะออกจากเขตที่ริมขอบ ท่อท่อหนึ่งจะไม่วิ่งตัดข้ามตนเอง แต่อาจจะวิ่งตัดข้ามท่ออื่น ๆ ท่อมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 ซม. และฝังไว้ครึ่งเมตรใต้ดิน มีลิ้นปิดน้ำเพื่อใช้เลือกว่าน้ำจะวิ่งผ่านท่อไหน และจะมีท่อท่อเดียว (จาก 3 ท่อ) ที่มีน้ำวิ่งผ่าน อัตราน้ำวิ่งไหลผ่านท่อจะเป็นอย่างน้อย 5 ลิตร/วินาที ผู้ทำนายจะต้องตรวจสอบเขตทดสอบล่วงหน้า เพื่อดูว่ามีน้ำธรรมชาติหรืออะไรอย่างอื่นที่เป็นตัวกวนการทดสอบหรือไม่ และจะมีการจดบันทึกเขตเหล่านั้นไว้ นอกจากนั้นแล้ว ผู้ทำนายต้องแสดงให้เห็นว่า อำนาจการทำนายใช้ได้กับท่อที่ยังไม่ได้ฝังเมื่อน้ำวิ่งไหลผ่าน ต่อจากนั้น ก็จะปล่อยให้น้ำวิ่งไหลผ่านท่อใดท่อหนึ่งโดยสุ่มในการทดสอบแต่ละครั้ง ผู้ทำนายจะต้องฝังสลักตั้งแต่ 10 ถึง 100 อันบนดินตามทางที่น้ำวิ่งไหลผ่าน สลัก 2 ใน 3 ที่ฝังต้องอยู่ไม่เกิน 10 ซม. จากศูนย์กลางของท่อที่น้ำไหลผ่าน เพื่อกำหนดว่า เป็นการทดลองที่สำเร็จ จะมีการทดสอบ 3 ครั้งสำหรับผู้ทำนายแต่ละคน และผู้ทำนายต้องผ่านการทดลอง 2 ครั้งจาก 3 ครั้ง จึงจะเรียกว่าผ่าน มีทนายคนหนึ่งอยู่ด้วย ผู้ถือเช็คเบิกเงินของแรนดี้ไว้ ถ้าผู้ทดสอบผ่านการทดสอบ ทนายจะให้เช็คนั้นกับผู้ทดสอบ ถ้าไม่มีใครผ่านการทดสอบ ทนายจะคืนเช็คให้กับนายแรนดี้
ผู้ทำนายทั้ง 4 คนยินยอมต่อสภาวะการทดสอบ และได้กล่าวว่า ตนรู้สึกว่าสามารถจะทำการทดสอบได้ในวันนั้นและอัตราการวิ่งของน้ำก็ใช้ได้ ก่อนการทดสอบ มีการถามว่ารู้สึกมั่นใจแค่ไหนว่าจะผ่านการทดสอบ ทั้งหมดล้วนแต่กล่าวว่า มั่นใจ 99% หรือ 100% มีการถามอีกด้วยว่า จะสรุปว่าอย่างไรถ้ามีน้ำที่ไหลหักศอกคือ 90 องศาจากทางที่ตนคิดว่าน้ำวิ่งผ่าน ทั้งหมดล้วนแต่ตอบว่าเป็นไปไม่ได้ หลังจากที่ทำการทดสอบแล้วแต่ยังไม่เฉลย มีการถามว่ามั่นใจแค่ไหนว่าผ่านการทดสอบ สามคนตอบว่า 100% และอีกคนหนึ่งบอกว่า ยังทำไม่เสร็จ
เมื่อทำการทดสอบเสร็จและเปิดเผยทางวิ่งของน้ำแล้ว ก็ปรากฏกว่าไม่มีใครที่ผ่านการทดสอบ มี ดร. ผู้ทำนายคนหนึ่งที่ฝังสลักของตนอย่างระมัดระวัง แต่สลักที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างออกไป 8 ฟุตจากท่อน้ำ แม้ว่าจะกล่าวว่า "เราแพ้" แต่ภายในสองนาที ก็กลับไปโทษเรื่องอื่นเช่นจุดดวงอาทิตย์ (sunspot) และสภาวะของแม่เหล็กโลก มีผู้ทำนายสองคนที่พบน้ำธรรมชาติก่อนการทดสอบ แต่เห็นต่างกันว่าอยู่ที่ไหน และก็ไม่เห็นด้วยกับผู้ที่ไม่พบน้ำธรรมชาติ
นักดาราศาสตร์ เด็นนิส รอว์ลินส์ อดีตผู้ร่วมองค์กรแฉวิทยาศาสตร์เทียม Committee for Skeptical Inquiry (CSI) กับนายแรนดี้ วิจารณ์ว่า รางวัลนี้ไม่มีความจริงใจ เพราะว่านายแรนดี้จะหาทางไม่ต้องจ่ายรางวัล ในนิตยสารเรื่องเหนือธรรมชาติ Fate (โชคชะตา) เดือนตุลาคม 2524 นายรอว์ลินส์อ้างนายแรนดี้ว่ากล่าวว่า "ผมมีทางออกเสมอ" ซึ่งต่อมานายแรนดี้จึงกล่าวว่า นายรอว์ลินส์ไม่ได้อ้างทั้งคำพูด ซึ่งจริง ๆ ก็คือ "เกี่ยวกับรางวัลที่ว่านี้ ผมมีทางออกเสมอ เพราะว่าผมถูก (คือรู้ว่าอะไรเป็นอะไร)" แล้วกล่าวว่า คำว่า "ผมมีทางออกเสมอ" กล่าวถึงความจริงที่ว่า เขาไม่ยอมให้ผู้รับการทดสอบโกงได้ และว่า ถ้ามีปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติจริง ๆ และมีคนที่สามารถแสดงได้ เขาก็จะให้รางวัลหนึ่งล้านดอลลาร์นั้นจริง ๆ[ต้องการอ้างอิง]
มีสื่อจิตวิญญาณผู้หนึ่ง (คือนางโรสแมรี่ อัลเทีย) ได้เสนอว่า รางวัลหนึ่งล้านดอลลาร์จริง ๆ ไม่มี หรือว่าอยู่ในรูปแบบของสัญญาผูกมัดตามกฎหมายหรือตั๋วสัญญาใช้เงินเท่านั้น แต่มูลนิธิกล่าวว่า รางวัลอยู่ในรูปแบบของพันธบัตรที่เปลี่ยนมือได้ฝากไว้ในบัญชีรางวัลของมูลนิธิ และการตรวจสอบทั้งบัญชีทั้งมูลค่ารางวัลสามารถทำได้ตามที่ขอ ซึ่งฝากไว้กับบริษัทการลงทุน Evercore
ในรายการ Larry King Live (รายการสดของนายแลร์รี คิง) วันที่ 6 มีนาคม 2544 นายแลร์รี คิง ขอสื่อวิญญาณและผู้มีอำนาจเหนือธรรมชาติซิลเวีย บราวน์ ให้เข้าชิงรางวัล ซึ่งเธอก็ได้ตกลง ต่อมานายแรนดี้ออกรายการเดียวกันกับนางบราวน์เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2544 และเธอก็ตกลงที่จะเข้าชิงรางวัลอีก แต่ว่า ต่อมาเธอปฏิเสธที่จะรับการทดสอบ ดังนั้น ในแรนดี้จึงแสดงนาฬิกาบนทเว็บไซต์ของเขาแสดงจำนวนอาทิตย์ที่ผ่านไปแล้วที่ซิลเวียรับที่จะเข้าชิงรางวัลแต่ไม่ทำจริง ๆ ในที่สุด นาฬิกานี้เปลี่ยนไปเป็นข้อความว่า "เวลาเกินกว่า 5 ปี" ได้ผ่านไปแล้ว ในปี 2556 นางบราวน์ถึงแก่ชีวิต
ในรายการเดียวกันวันที่ 26 มกราคม 2550 นายแรนดี้ท้าให้สื่อจิตวิญญาณนางโรสแมรี่ อัลเทีย ให้เข้าชิงรางวัล เพราะว่า ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2544 ที่นายแรนดี้พบกับนางอัลเทียในรายการเดียวกัน เธอได้ปฏิเสธที่จะเข้าชิงรางวัล โดยบอกว่ารางวัลมีเล่ห์เหลี่ยม และตอบเป็นข้อความส่วนหนึ่งว่า "ดิฉันเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาพูด ว่ามีคนหลายคนที่อ้างว่าเป็นสื่อจิตวิญญาณ คือสามารถคุยกับคนตายได้ มีหลายคนมาก เราล้วนแต่รู้เรื่องนี้ดี คือมีพวกคนโกงและคนหลอกลวงทุกแห่งหน" นายแรนดี้ตอบเธอว่า "คุณเป็นคนคนหนึ่งในพวกนั้น"
ในรายการ This Morning (เช้านี้) วันที่ 27 กันยายน 2554 นักมายากลพอล เซนอนได้ท้าผู้มีอำนาจเหนือธรรมชาติเลห์ แคเธอริน แซลเวย์ ให้เข้าชิงรางวัล ซึ่งเธอก็ได้ตกลง ผู้จัดรายการกล่าวว่า รายการจะจ่ายค่าเครื่องบินไปสหรัฐให้เพื่อการทดสอบ แซลเวย์ต่อมาถอนตัวจากการชิงรางวัล โดยอธิบายทางทวิตเตอร์ว่า "ดังที่คาดหวัง มีเล่ห์เหลี่ยมทางกฎหมาย และทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะผ่าน"
นายแรนดี้เคยปฏิเสธการสมัครจากนายริโก้ โคล็อดซี่ ผู้ที่อ้างว่าได้อดอาหารมาตั้งแต่ปี 2541 ในปี 2549 นายแรนดี้ตกลงที่จะทดสอบนายโคล็อดซี่ แต่ว่า ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงเรื่องสถานที่ทดสอบและวิธีการทดสอบได้
กลุ่มคนอินโดนีเซียกลุ่มหนึ่งจากจังหวัดบาหลีที่เรียกตนว่า Yellow Bamboo (ไม้ไผ่เหลือง) อ้างว่าสมาชิกของตนคนหนึ่งคือนาย Pak Nyoman Serengen สามารถล้มคู่ต่อสู้จากระยะไกล ๆ ได้โดยใช้เพียงแค่ไม้ไผ่สีเหลืองชิ้นหนึ่ง คลิปวิดีโอบนเว็บไซต์ของกลุ่มแสดงหมู่นักเรียนวิ่งเขาหานาย Serengen แล้วล้มลงที่พื้นเมื่อ (หรือ ในบางครั้ง ก่อน) นาย Serengen ยื่นมือออก แล้วตะโกน มูลนิธิจัดให้อาสาสมัครทำการตรวจสอบในเบื้องต้น แต่หลังจากที่กลุ่มไม้ไผ่เหลือง "คอยสร้างอุปสรรคทุกอย่างในการดำเนินแผนนั้น" นายแรนดี้จึงประกาศว่า เขาจะไม่ยุ่งกับกลุ่มนั้นอีก มีคนในพื้นที่อีกคนหนึ่งที่ติดต่อนายแรนดี้เพื่ออาสาสมัครเข้าไปตรวจสอบอย่างไม่เป็นทางการ แล้วออกวิดีโอความละเอียดต่ำที่แสดงคนที่ตรวจสอบล้มไปที่พื้นเมื่อทำการทดสอบในเบื้องต้น ส่วนมูลนิธิได้ชี้ว่า การทดสอบไม่ได้ทำตามแบบที่วางไว้ และมีปัญหาในการทดสอบหลายอย่างรวมทั้งการทำในเวลากลางคืน หลังจากที่ดูภาพนิ่งจากเหตุการณ์นั้น คนที่มีประสบการณ์หลายคนเสนอว่า อาจจะเป็นการใช้อาวุธช็อคด้วยไฟฟ้า
ในเดือนกรกฎาคม 2557 มีการทดสอบพนักงานขายชาวจีนนายหวังเฟย ต่อหน้าผู้ชม 600 คนหลังงานประชุมจอมมหัศจรรย์ (The Amazing Meeting) ในเมืองลาสเวกัส นายหวังอ้างว่า จากมือขวาของเขา เขาสามารถส่งพลังงานลี้ลับเป็นระยะทาง 3 ฟุต ไม่ว่าจะมีไม้ โลหะ พลาสติก หรือกระดาษแข็งกั้นอยู่หรือไม่ ว่าพลังงานนี้คนอื่นสามารถรู้สึกได้โดยเป็นความร้อน ความดัน พลังแม่เหล็ก หรือว่า "เป็นความเปลี่ยนแปลงแบบพูดไม่ถูก" มีคน 9 คนที่นายหวังเลือกเพื่อรับพลังจากมือของเขา แต่ละคนจะมีการปิดตาบนเวที และนายหวังและบุคคลควบคุม (ดูการทดลองมีกลุ่มควบคุม) อีกคนหนึ่งจะอยู่หลังม่าน มีการทอดลูกเต๋า เป็นตัวบอกให้นายหวังหรือบุคคลควบคุม พยายามส่งพลังไปที่มือของคนรับการทดสอบที่มีมือซ่อนอยู่ในกล่องกระดาษแข็ง ซึ่งต่อมาจะเอาที่บังตาออก แล้วบอกว่า รู้สึกพลังอะไรหรือไม่ แล้วมาจากคนไหนระหว่างคนที่ 1 และ 2 จะต้องมีการเลือกนายหวังอย่างถูกต้อง 8 ใน 9 ครั้งเพื่อได้รางวัล หลังจากการทดลองเพียงแค่ 2 ครั้งที่นายหวังล้วนล้มเหลว การชิงรางวัลครั้งนี้ก็สิ้นสุดลง นายหวังกล่าวว่า ตนจะลองอีกปีต่อไป โดยกล่าวว่า "พลังงานนี้ลึกลับ"
ต่อมานักเล่นเครื่องเสียงลี ฮัตชินสันติดต่อมูลนิธิหลังจากที่เขาเขียนบทความให้เว็บไซต์ข่าว Ars Technica เกี่ยวกับสายอีเทอร์เน็ตที่โฆษณาว่า "ช่วยป้องกันสัญญาณเสียงของคุณให้ปราศจากตัวกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า" ในงานประชุมจอมมหัศจรรย์ปี 2558 โครงการจัดการทดลองแบบอำพรางสองด้าน โดยให้อาสาสมัครฟังเสียงเหมือนกันสองอย่าง โดยที่ใช้เคเบิลธรรมดา หรือเคเบิลที่โฆษณา ที่เลือกโดยสุ่ม หลังจากที่อาสาสมัคร 7 คน (คนหนึ่งถูก คนหนึ่งผิด 5 คนไม่ได้ยินความแตกต่าง) การทดสอบก็สิ้นสุดลงเพราะไม่สามารเลือกเคเบิลที่ดีกว่าเป็นจำนวนครั้งที่กำหนดโดยกฏการดำเนินการได้
อ่านบทความฉบับสมบูรณ์ได้ที่ http://th.wikipedia.org/wiki/One_Million_Dollar_Paranormal_Challenge